ประโยชน์ของซอฟต์แวร์ต่อการทำธุรกิจ ง่ายขึ้น 2 เท่า ปัจจุบันมีการแข่งขันทางด้านธุรกิจสูงขึ้น หากคุณไม่อยากล้าหลัง ต้องเริ่มลงทุนกับเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มผลผลิต และประสิทธิภาพของการทำงานให้นำหน้าคู่แข่ง โดยการนำซอฟต์แวร์เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และซอฟต์แวร์จะช่วยลดความซับซ้อน ทำให้ธุรกิจราบรื่นมากยิ่งขึ้น
การใช้ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมต่อธุรกิจ มีความสำคัญต่อการเติบโต ช่วยปรับปรุงกระบวนการและเพิ่มผลผลิตนำไปสู่การส่งมอบโครงการที่ดีได้อย่างรวดเร็ว ณ ตอนนี้ มีเครื่องมือซอฟต์แวร์ทางธุรกิจมากมาย เช่น เครื่องมือการจัดการโครงการ แอปแชทของทีม เครื่องมือติดตามเวลา และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้น เรามาดูกันว่า ซอฟต์แวร์มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจมีอะไรบ้าง!?
สารบัญ
- ประโยชน์ของการนำซอฟต์แวร์มาใช้ต่อการทำธุรกิจ
- ซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจมีอะไรบ้าง!?
- 5 ซอฟต์แวร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- สรุป
ประโยชน์ของการนำซอฟต์แวร์มาใช้ต่อการทำธุรกิจ

1. ซอฟต์แวร์ ช่วยปรับปรุงคุณภาพงาน
ซอฟต์แวร์ช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงไปในทิศทางที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความพึงพอใจต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณ และช่วยให้คุณสามารถวางแผนมอบหมายงาน กำหนดเป้าหมาย สื่อสาร ติดตามความคืบหน้า และสร้าง Report ได้แบบเรียลไทม์ ซอฟต์แวร์สามารถแบ่งปันข้อมูลและรายงานสถานะของโครงการ ทำให้คุณสามารถตรวจสอบงานของทุกคนได้อย่างง่ายดาย
2. ซอฟต์แวร์ ทำให้งานมีประสิทธิภาพ
หากธุรกิจของคุณต้องดูแลหลายภาคส่วน กระบวนการทำงานร่วมกันต้องมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญกว่าได้ ต้องต้องมีเครื่องมือซอฟต์แวร์ธุรกิจเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพ ทำให้คุณมอบหมายโครงการและงานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และสามารถติดตามความคืบหน้าโดยใช้เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว
3. ซอฟต์แวร์ ทำให้การสื่อสารเป็นเรื่องง่าย
ซอฟต์แวร์สื่อสารข้อมูล (Datacommunication Software) ช่วยให้ไมโครคอมพิวเตอร์ ติดต่อสื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นในพื้นที่ห่างไกลโดยผ่านทางสายโทรศัพท์ ซอฟต์แวร์สื่อสารใช้เชื่อมโยงต่อเข้ากับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเทอร์เน็ตทำให้สามารถใช้บริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้และใช้รับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยโอนย้ายแฟ้มข้อมูล แลกเปลี่ยนข้อมูล และอ่านข่าวสาร เป็นต้น
4.ซอฟต์แวร์ ช่วยให้การติดตามงานมีประสิทธิภาพ
คุณสามารถทราบความคืบหน้าของงานต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา คุณจะมีภาพรวมของงานทั้งหมดเพื่อระบุปัญหาและแจ้งความคืบหน้าให้กับลูกค้า เพื่อตรวจสอบพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพงานได้แบบเรียลไทม์ และทำให้งานบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
5. ซอฟต์แวร์ รายงานความคืบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการงานหลายอย่างพร้อม ๆ กันเป็นเรื่องที่ท้าทาย และอาจทำให้คุณละเลยงานบางส่วนไปได้ เพราะต้องรับผิดชอบงานหลายด้าน ดังนั้น ซอฟต์แวร์จะช่วยให้การทำธุรกิจสะดวกสบายขึ้น
6. ซอฟต์แวร์ สามารถจัดเก็บข้อมูลไว้ในที่เดียว
ข้อดีของการนำซอฟต์แวร์มาใช้ในธุรกิจ คือ ช่วยให้สมาชิกภายในทีมจัดเก็บข้อมูลของตนบนแพลตฟอร์มทั่วไปได้ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการธุรกิจที่มีพนักงานทำงานจากระยะไกล สมาชิกในทีมสามารถเข้าถึงหรือจัดเก็บข้อมูลในหน่วยเก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม
ซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจมีอะไรบ้าง!?

ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจรูปแบบไหน สิ่งที่ควรคำนึงถึงสำหรับการนำซอฟต์แวร์มาใช้ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต เพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ และดึงดูดผู้ชมเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม
5 ซอฟต์แวร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

1. ซอฟต์แวร์ Evernote
คือ เว็บแอปพลิเคชันที่มีชื่อเสียงในการจดโน้ต และช่วยสร้าง Productivity ไม่ว่าจะเป็น Project หรืองานในแต่ละวัน ทั้งการจดโน๊ตที่สามารถแปะเว็บที่สนใจ ด้วยฟีเจอร์ Web Clipper หรือฟีเจอร์ Document Scanning ช่วยสแกนเอกสารลงโน๊ต และสิ่งน่าสนใจก็คือ รูปแบบหน้าตาที่เรียบง่ายและการจัดเรียงข้อมูลที่เป็นระเบียบ รวมถึงความสามารถแชร์โน๊ตไปยังคนที่ต้องการได้ และสามารถแก้ไขโน๊ตนั้นได้เหมือนกัน
2. ซอฟต์แวร์ Trello
คือ Collaboration Software หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำงานร่วมกันภายในองค์กร เป็น dashboard ช่วยจัดการงาน สร้าง task หรือภาระงาน สามารถติดตามสถานะงานได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ และที่สำคัญใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้งทำ Daily Updates, ระบบ CRM รวมไปถึงการทำ Report รายงานผลการทำงาน อีกทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนการจัดการภายในองค์กร ทำให้ทีมสามารถติดตามงานที่ตกหล่น วิเคราะห์สาเหตุของความผิดพลาด และป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดนั้น ๆ ได้อีก
3. ซอฟต์แวร์ A Service
คือ โมเดลซอฟต์แวร์บนคลาวด์ที่ส่งมอบแอปพลิเคชันไปสู่ผู้ใช้ปลายทาง ผ่านบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต เป็นระบบจัดการและติดตามที่อัจฉริยะ นับว่า เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงกระบวนการและจัดการบริการของคุณได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการบรรลุเป้าหมายด้านการบริการ และสามารถลดต้นทุนการเดินทางเพิ่มผลผลิต สร้างความมั่นใจต่อการจัดการอย่างมืออาชีพ
4. ซอฟต์แวร์ Wisimo
คือ แพลตฟอร์ม E-Learning สำหรับองค์กร ช่วยพัฒนาศักยภาพของพนักงานในองค์กร และวัดผลการเรียนรู้ พร้อมรายงานผลการพัฒนาตามผังโครงสร้าง โดยมุ่งเน้นการผสมผสานนวัตกรรมด้านมัลติมีเดีย คลาวด์อินเทอร์เน็ต ช่วยให้บุคลากรเข้าถึงความรู้ และทักษะใหม่ ๆ เปิดโลกแห่งการทำงานยุคใหม่ที่สมบูรณ์แบบ
5. ซอฟต์แวร์ Armshare
คือ ระบบ Social CRM หรือ Social Engagement นับเป็นผู้ช่วยในการบริหารจัดการและทำงานในช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย ช่วยให้งานบริการหรือการติดต่อมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รองรับการทำงานจากหลากหลายหน่วยงาน ใช้งานง่าย ซอฟต์แวร์นี้จะมีแดชบอร์ด เพื่อให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบกิจกรรม และการมีส่วนร่วมในบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งหมดของคุณได้
บทความแนะนำ
- ความรู้พื้นฐานการดูแลเครื่องพิมพ์
- เครื่องปริ้นเตอร์แต่ละแบรนด์ มีข้อดีอย่างไร
- รีวิว 7 เครื่องปริ้นเตอร์ฟังก์ชันครบ คุณภาพสูง
สรุป
ถึงอย่างไรก็ตาม การเลือกซอฟต์แวร์มาใช้ในธุรกิจ ต้องดูในเรื่องของความเหมาะสม หากนำซอฟต์แวร์มาใช้ได้อย่างตรงจุด จะช่วยพัฒนาธุรกิจของคุณให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ ทั้งนี้ ต้องเช็กด้วยว่า ซอฟต์แวร์ที่นำมาใช้นั้นต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ผิดกฎหมายด้วย เพราะอาจทำให้ธุรกิจของคุณมีปัญหาในภายหลัง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร : 02-922-0291
E-mail : support@uniquebig.com
line : @ubcbiz