วิธีเลือกการ์ดจอให้เหมาะกับการใช้งาน 2024

วิธีเลือกการ์ดจอให้เหมาะกับการใช้งาน 2024 การ์ดจอ (VGA) ส่วนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมและการทำงาน ซึ่งการ์ดจอแต่ละรุ่นมีประสิทธิภาพ และขีดจำกัดการใช้งานแตกต่างกัน สำหรับใครที่กำลังมองหาการ์ดจอ ทางเรามีวิธีการเลือกการ์ดจอให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบจัดเต็มมากแนะนำ

สารบัญ

• วิธีเลือกการ์ดจอให้เหมาะกับการใช้งาน 2024
• เลือกค่ายที่ชอบ เจ้าที่ถูกใจ
• รูปแบบการใช้งาน
• หน่วยความจำ (Memory)
• ความเร็วในการประมวลผล (Clock speed)
• ความเข้ากันได้ระหว่างการ์ดจอกับ CPU
• ระบบระบายความร้อนของการ์ดจอ
• สรุป

ปัจจุบันการ์ดจอ (VGA) มี 2 เจ้าที่โดดเด่นด้านคุณสมบัติ และประสิทธิภาพนั่นก็คือ Nvidia (AKA. ค่ายเขียว) และ AMD (AKA. ค่ายแดง) ซึ่งได้ผลิตตัวชิพการ์ดมาทั้งในส่วนของ Gaming และ Workstation โดยทั้ง 2 ตัวนี้มีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้

• Gaming ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกม มีคุณภาพสูง มาพร้อมการประมวลผลสุดล้ำ เทคโนโลยีสุดทันสมัย ลดภาพฉีกขาด เล่นเกมลื่นไหล เล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลิน
• Workstation นิยมใช้ในงานด้านการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ (CAD) งานตัดต่อวีดีโอ การสร้างแบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ การประมวลผล AI หรือใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลของ cluster ในงาน HPC โดยการออกแบบนั้นจะเน้นความเสถียร ประสิทธิภาพที่คงที่ตลอดการรันงาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ บนบอร์ดสามารถรองรับการใช้งานแบบ full load เป็นระยะเวลานานติดต่อกันได้

วิธีเลือกการ์ดจอให้เหมาะกับการใช้งาน 2024

การ์ดจอ (VGA) ในตลาดมีหลายรุ่น หลายแบรนด์ ให้เลือกนำมาใช้งานมากมาย ดังนั้น ถ้าคุณต้องการการ์ดจอที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานให้มากที่สุด มาดูกันว่าวิธีการเลือกการ์ดจอ (VGA) นั้นต้องพิจารณาอะไรบ้าง?

1. เลือกค่ายที่ชอบ เจ้าที่ถูกใจ

การ์ดจอของแต่ละค่ายมีเทคโนโลยีชิป การประมวลผล และคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน สำหรับข้อแตกต่างของการ์ดจอ 2 เจ้า Nvidia (AKA. ค่ายเขียว) และ AMD (AKA. ค่ายแดง) นั้น หลายคนเห็นตรงกันคือ การ์ดจอ Nvidia จะมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการ์ดจอ AMD ในรุ่นใกล้เคียงกัน ส่วนการ์ดจอ AMD ราคามักถูกกว่า ดังนั้น คุณอาจต้องพิจารณาในส่วนนี้อย่างละเอียดอีกที หรือนำการ์ดจอรุ่นใกล้เคียงกันมาเปรียบเทียบ นอกจากนี้ได้มีการ์ดจอคู่แข่งเพิ่มมาอีกแบรนด์นั่นก็คือ Intel ผู้ผลิตซีพียูแบรนด์ดังที่หันมาจับตลาดกราฟิกกับการ์ดจอ Intel รุ่นต่าง ๆ ที่เปิดตัวเมื่อช่วงปี 2022 ดังนั้น คุณอาจจะต้องนำไปเปรียบเทียบเพิ่มเติม เพื่อเลือกกการ์ดจอที่เหมาะสมกับการใช้งานให้มากที่สุด

2. รูปแบบการใช้งาน

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า การ์ดจอมีสเปกการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถจำแนกตามการใช้งานได้ดังนี้

• การ์ดจอทั่วไป หรือ ออนบอร์ด :  เป็นการ์ดจอทำงานทั่วไป ฟังเพลง เล่นเกมทั่วไป ไม่ได้เล่นเกมกราฟฟิกระดับสูง ส่วนมากจะเป็นรุ่นการ์ดรุ่น GT ของ Nvidia หรือ HD ของ AMD
• การ์ดจอทำงาน : เหมาะสำหรับทำงาน Render กราฟฟิก ทำงานวาดภาพสเกล แต่การ์ดนี้ไม่เหมาะเล่นเกม เพราะประสิทธิภาพอาจจะไม่เท่ากับการ์ดจอเล่นเกมนั่นเอง โดยการ์ดจอทำงานจะมีรหัสเป็น Quadro เพื่องาน 3D, Tesla ของ Nvidia และ Firepro, Vega  สำหรับ AMD
• การ์ดจอเล่นเกม : เรียกได้ว่า เป็นการ์ดจอที่ใช้ทำงานและเล่นเกมส์ เหมาะแก่การแสดงผลที่ค่า Frame per second สูง ๆ อีกทั้งยังเน้นในเรื่องของ Resolution ที่มีความละเอียดสูง แต่การ์ดจอเล่มเกมนี้กินไฟสูงกว่าการ์ดจอทำงาน โดยมีรหัสคือ Geforce GTX,Geforce RTX ของ Nvidia และ Radeon,Radeon RX ของ AMD

3. หน่วยความจำ (Memory)

การ์ดจอ (VGA) มีหน่วยความจำสำหรับการรับส่งข้อมูลไปให้ CPU ประมวลผลโดย VGA บางรุ่นสามารถทำหน้าที่ประมวลผลแทน CPU ได้ ทำให้ CPU ไม่ต้องรับภาระในการประมวลผล ซึ่งส่งผลให้ทำงานได้เร็วขึ้น ดังนั้น ถ้า CPU มีหน่วยความจำมาก ๆ ก็จะรับข้อมูลจาก CPU ได้มากขึ้นเช่นกัน แต่ทั้งนี้ ถึงแม้จะมีความจำมากแค่ไหนก็ตาม หาก Bandwidth และ Bus width น้อยก็ไม่สามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีได้ กล่าวคือ Bandwidth และ Bus Width นั้นเหมือนเป็นช่องทางการรับส่งข้อมูล ถ้าค่า Bus Width สูงก็เหมือนกับช่องทางที่กว้างสามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น ไหลลื่นขึ้น ฉะนั้น ต่อให้การ์ดจอมี RAM เพียง 3 GB มีค่า Bus Width สูงกว่าย่อมมีประสิทธิภาพกว่าการ์ดจอ RAM 4GB แต่มีค่า Bus Width น้อยนั่นเอง

4. ความเร็วในการประมวลผล (Clock speed)

ความเร็วในการประมวลผลของ Core ภายในการ์ดจอนั้น ยิ่งถ้ามีความเร็วในการประมวลผลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี หากยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ นั่นก็คือ ภายใน 1 วินาที ถ้าสามารถทำงานประมวลผลได้ 2 ล้านครั้ง มี core อยู่ 2000 cores นั่นหมายความว่า ใน 1 วินาทีจะแสดงผลได้  4000 ล้านพิกเซล และถ้ามีความเร็วเพิ่มขึ้นก็จะยิ่งแสดงผลได้มากขึ้น

5. ความเข้ากันได้ระหว่างการ์ดจอกับ CPU

ก่อนพิจารณาเลือกกการ์ดจอ คุณต้องดูความเข้ากันได้กับ CPU ที่ใช้งานก่อน หาก CPU ไม่ค่อยแรง แต่เลือกการ์ดจอระดับท็อป เมื่อเล่นเกมไปสักระยะ อาจเกิดอาการกระตุกทั้ง ๆ ที่ CPU ทำงานเต็มที่ 100% ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากอาการ “สภาวะคอขวด” เพราะ CPU ประมวลผลไม่ทัน และช้ากว่าการ์ดจอที่รอประมวลผล เนื่องจากมีส่วนประกอบชิ้นใดชิ้นหนึ่งดึงศักยภาพของส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าไว้ จึงควรใส่ใจเกี่ยวกับ CPU และ GPU ใน PC สำหรับการเล่นเกมหรือการใช้งาน ควรจัดสเปกให้มีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน ไม่เด่นหรือด้อยด้านใดด้านหนึ่งจนเกินไป

6. ระบบระบายความร้อนของการ์ดจอ

เมื่อมีการทำงานจ่ายไฟฟ้าเข้าไปย่อมทำให้เกิดความร้อน ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการทำงานลดลงได้ ซึ่งการระบายความร้อนใน VGA ส่วนมากจะพิจารณาด้วยรูปแบบของจำนวนพัดลม ดีไซน์ใบพัด ไปจนถึง Copper Heat pipe หรือ ท่อทองแดงที่อยู่ภายในการ์ดจอ ยิ่งถ้ามีช่องทางระบายความร้อน ก็ยิ่งระบายความร้อนได้ดี

บทความแนะนำ

• วิธีเลือกเครื่องถ่ายเอกสาร ให้เหมาะสมกับธุรกิจคุณ
• หมึกพิมพ์อิงค์เจ็ท HP พิมพ์งานง่าย ไร้กังวล ราคาประหยัด
• อุปกรณ์สำนักงาน โฮมออฟฟิศยุคใหม่

สรุป

วิธีเลือกการ์ดจอให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณพิจารณาถึงรูปแบบการใช้งานและความเข้ากันได้ของการ์ดจอกับคอมพิวเตอร์ของคุณ จะช่วยเสริมให้คุณได้รับการ์ดจอที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะสายเกมเมอร์ที่เพิ่งเริ่มประกอบคอม หรือกำลังมองหาคอมพิวเตอร์เซ็ตไว้เล่นเกม จะได้เลือกการ์ดจอที่ตอบโจทย์กับการเล่นเกม คุ้มค่าแก่การลงทุนซื้อการ์ดจอที่เหมาะสมกับการใช้งานได้มากที่สุด

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

โทร : 02-922-0291

E-mail : support@uniquebig.com

line : @ubcbiz