5 ประเภทเครื่องพิมพ์ที่ควรรู้!? เครื่องพิมพ์หรือเครื่องปริ้นเตอร์เป็นอุปกรณ์สำนักงานที่มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจ อีกทั้ง เครื่องพิมพ์มีหลายประเภทให้เลือกใช้งาน บทความนี้จึงจะมาแนะนำประเภทของเครื่องพิมพ์แต่ละแบบที่เหมาะกับฟังก์ชันการใช้งานและประเภทชิ้นงานที่ต่างกันไป เพื่อให้คุณเลือกซื้อเครื่องพิมพ์ได้ตรงกับความต้องการ
สารบัญ
- เครื่องพิมพ์ประเภทหัวเข็ม (Dot Matrix Printer)
- เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)
- เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)
- เครื่องพิมพ์ความร้อน (Thermal Printer)
- เครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ (Plotter Printer)
- สรุป
เครื่องพิมพ์ 5 ประเภทหลัก ๆ ที่ควรรู้จัก
1. เครื่องพิมพ์ประเภทหัวเข็ม (Dot Matrix Printer)

เครื่องพิมพ์ที่ใช้ระบบการพิมพ์ด้วยหัวเข็ม โดยกดหัวเข็มลงบนผ้าหมึกหรือริบบอน (Rinbon) ให้ผ้าหมึกไปกระทบกับกระดาษอีกทีหนึ่ง เมื่อเกิดหมึกจะปรากฏเป็นข้อความหรือลวดลายบนกระดาษตามเข็มที่กระแทกลงไป ซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้ เพราะมีเครื่องพิมพ์เลเซอร์และเครื่องปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ททำงานแทน
แต่ถึงอย่างนั้น เครื่องพิมพ์ประเภทหัวเข็มก็ยังนิยมใช้ในกลุ่มสำนักงาน ห้างร้าน บริษัท หรือหน่วยงานที่ต้องพิมพ์เอกสารอยู่ตลอดในปริมาณมาก เช่น งานพิมพ์ใบกำกับภาษี ใบส่งของ ใบเสร็จ หรือเอกสารการเงิน/การบัญชี ฯลฯ
ข้อดี / จุดเด่นเครื่องพิมพ์หัวเข็ม (Dot Matrix Printer)
- เครื่องพิมพ์หัวเข็มเหมาะสำหรับพิมพ์เอกสารอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก ๆ
- มีความทนทานสูง พิมพ์งานได้เสถียรต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
- ผ้าหมึกมีราคาถูกเมื่อเทียบกับน้ำหมึกที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ประเภทอื่น
- ใช้พิมพ์เอกสารที่ไม่ได้ต้องการความละเอียดสูงหรือพิมพ์สีเดียว เช่น เอกสารสัญญา, ใบกำกับภาษี ใบเสร็จ, ใบเสนอราคา, เครื่องคิดเงินแคชเชียร์, เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ, เครื่องพิมพ์สมุดธนาคาร เป็นต้น
2. เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)

เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) หรือเครื่องพิมพ์ระบบพ่นหมึก เป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดยการพ่นหมึกออกมาเป็นหยดเล็ก ๆ ลงบนกระดาษ เมื่อต้องการพิมพ์รูปทรงหรือรูปภาพต่าง ๆ เครื่องพิมพ์จะทำการพ่นหมึกออกตามแต่ละจุดในตำแหน่งที่เครื่องประมวลผลไว้อย่างแม่นยำ ได้รับความนิยมโดยทั่วไปตามครัวเรือนและสำนักงาน สามารถพิมพ์ได้ทั้งขาว-ดำและสี ราคาประหยัดเมื่อเทียบกับฟังก์ชัน พิมพ์งานได้รวดเร็ว มีขนาดเล็กกะทัดรัด โดยคุณภาพการพิมพ์ของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ดูความละเอียดที่ค่า DPI หรือ Dots Per Inch หมายถึงจำนวนจุดต่อตารางนิ้ว ยิ่งค่า DPI สูง ก็สามารถพิมพ์ได้ความละเอียดสูง เช่น 1200 DPI หรือ 2400 DPI
หมึกพิมพ์หรือตลับหมึกเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท โดยสีหลักของเครื่องพิมพ์จะมี 4 สี ได้แก่ Yellow, Magenta, Cyan และ Black เมื่อพิมพ์ชิ้นงาน เครื่องพิมพ์จะผสมสีให้อัตโนมัติ และสำหรับกระดาษที่ใช้คู่กับเครื่องพิมพ์ระบบพ่นหมึก ใช้กระดาษทั่วไปพิมพ์ได้ เช่น A4 หรือกระดาษปอนด์ ทั้งนี้ ต้องมีความหนาพอสมควรที่จะรับนำ้หมึกได้โดยกระดาษไม่อ่อนยุ่ย ซึ่งในปัจจุบัน เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมีการออกแบบให้เป็นเครื่องพิมพ์แบบ All-in-One สามารถทำงานได้หลายฟังก์ชัน เช่น สแกน ถ่ายเอกสาร พิมพ์งาน และแฟกซ์ จึงกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
ข้อดี / จุดเด่นของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)
- งานพิมพ์สีสันสด คมชัด สวยงาม ภาพดูเป็นธรรมชาติ
- มีขนาดเล็ก ประสิทธิภาพสูง
- สามารถพิมพ์งานต่อวันในปริมาณไม่มากนัก
- ใช้พิมพ์งาน/เอกสารทั่วไปในครัวเรือนหรือออฟฟิศขนาดเล็ก
3. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)

เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร คือยิงเลเซอร์ไปสร้างภาพบนกระดาษในการสร้างรูปภาพ หรือตัวอักษร ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงมาก เครื่องพิมพ์เลเซอร์ มีความเร็วในการพิมพ์ได้หลายสิบแผ่นต่อนาที ให้ความละเอียดสูง
ตลับหมึกของเครื่องพิมพ์เลเซอร์นั้น จะเรียกว่า “โทนเนอร์” (Toner) ซึ่งมีทั้งสีดำ (Mono) และแบบสี (Color) ซึ่งคนส่วนใหญ่เลือกใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์งานขาว-ดำ เพราะราคาหมึกสีค่อนข้างสูง นิยมใช้ตามครัวเรือน สำนักงาน ห้างร้าน บริษัท ฯลฯ
ข้อดี / จุดเด่นของเครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)
- ให้ความคมของตัวอักษรมากกว่าเครื่องพิมพ์ประเภทอื่น แต่ราคาเครื่องพิมพ์และหมึกจะสูงกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท
- พิมพ์ชิ้นงานได้รวดเร็ว หรือหลายสิบแผ่นต่อนาที
- น้ำหมึกคุณภาพดี ให้ความคงทนมากกว่าหมึกสีในเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท
- ทำงานได้เงียบที่สุดในบรรดาเครื่องพิมพ์
- ใช้พิมพ์งาน/เอกสารทั่วไปในครัวเรือนหรือออฟฟิศขนาดเล็ก
4. เครื่องพิมพ์ความร้อน (Thermal Printer)

เครื่องพิมพ์ความร้อน หรือเครื่องพิมพ์ระบบเทอร์มอล (Thermal Printer) ใช้หลักการถ่ายเทความร้อนจากหัวพิมพ์ไปยังกระดาษความร้อน ทำให้เม็ดสีที่กักเก็บไว้ในกระดาษแตกตัวออกมาเป็นลวดลาย เครื่องพิมพ์ความร้อนนิยมใช้ตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ในตู้ ATM ที่พิมพ์สลิป หรือบัตรคิวตามร้าน เพราะไม่ต้องใช้หมึก พิมพ์ชิ้นงานได้สะดวก รวดเร็ว ทำงานเงียบ และยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำ
เครื่องพิมพ์ความร้อน ใช้ระบบพิมพ์ด้วยความร้อนโดยตรง (Direct Thermal) คือ ระบบการพิมพ์ที่ไม่ต้องใช้ผ้าหมึกหรือริบบอน เพราะเครื่องจะส่งความร้อนไปยังหัวพิมพ์ให้สัมผัสกับกระดาษโดยตรง ซึ่งกระดาษที่ใช้ต้องเป็น “กระดาษความร้อน” (Thermal paper) เท่านั้น เมื่อสารเคมีสัมผัสกับความร้อนก็จะทำให้หมึกในกระดาษแตกตัวออกมา กลายเป็นบาร์โค้ด ข้อความ หรือรูปภาพบนกระดาษ ซึ่งระบบการพิมพ์แบบนี้ให้ลวดลายหมึกบนกระดาษที่คงทน
ข้อดี / จุดเด่นของเครื่องพิมพ์ความร้อน (Thermal Printer)
- สะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนผ้าหมึกให้ยุ่งยาก
- เหมาะพิมพ์งานที่ไม่ต้องการความคงทนยาวนาน เช่น ใบเสร็จ สลิป ตั๋วบาร์โค้ด
- ใช้กับกระดาษความร้อน หรือ Thermal Paper กระดาษใบเสร็จความร้อน
5. เครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ (Plotter Printer)

เครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ (Plotter Printer) หรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่า “เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง” คือ เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลหรือลวดลายลงบนกระดาษ มีหน้ากว้างสำหรับพิมพ์งานขนาดใหญ่ตั้งแต่ A0 – A3 ใช้สำหรับงานพิมพ์ โครงการ แบนเนอร์ ป้าย หรือสิ่งพิมพ์โฆษณาขนาดใหญ่ ตลอดจนสิ่งพิมพ์ที่ภาพมีความละเอียดซับซ้อนสูง เช่น แผนที่ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ แบบร่างสถาปัตยกรรมวิศวกรรม พิมพ์เขียวสถาปัตยกรรมวิศวกรรม ฯลฯ
หลักการทำงานของเครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ จะประกอบไปด้วยปากกาหมึกหลากสี จำนวน 1 – 6 แท่ง ทำหน้าที่เคลื่อนไปบนแกนโลหะที่ควบคุมด้วยโปรแกรมเพื่อวาดจุดลงบนชิ้นงาน เครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์แบ่งเป็น 2 แบบตามวิธีการพิมพ์ ได้แก่
1. พล็อตเตอร์แบบระนาบ (Flatbed Plotter) คือ เครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ประเภทที่กระดาษวางอยู่กับที่ ส่วนที่เคลื่อนที่คือปากกาทำการเคลื่อนไปมาบนแกนโลหะ คอยวาดลวดลายลงบนกระดาษหรือชิ้นงานในแนวระนาบ
2. พล็อตเตอร์แบบดรัม (Drum Plotter) คือ เครื่องพิมพ์ประเภทที่มีล้อยางด้านล่างสำหรับทำหน้าที่เคลื่อนกระดาษ ส่วนปากกาและหมึกจะอยู่ด้านบน เคลื่อนที่ไปมาซ้าย-ขวาเพื่อวาดรูปบนกระดาษบริเวณที่ล้อหมุนกระดาษมา
ข้อดี / จุดเด่นของเครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ (Plotter Printer)
- พิมพ์งานที่มีรายละเอียดสูงและซับซ้อนได้ดี
- พิมพ์งานได้ขนาดใหญ่ตั้งแต่ A0 – A3
- มีความเร็วและความแม่นยำในการพิมพ์สูง
- พิมพ์ชิ้นงานได้คมชัดและสีสันสดใส
บทความแนะนำ
- Server มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจสมัยใหม่อย่างไร!?
- 6 เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ Canon ยอดนิยม
- เทปพิมพ์อักษร BROTHER
สรุป
เครื่องพิมพ์ที่นิยมใช้ตามครัวเรือนและสำนักงาน คือ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เครื่องพิมพ์เลเซอร์ และเครื่องพิมพ์หัวเข็ม โดยเครื่องพิมพ์แต่ละประเภทมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป
ส่วนเครื่องพิมพ์ความร้อน หรือ(เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ) และเครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์จะเอาไว้ใช้สำหรับพิมพ์ชิ้นงานที่มีความละเอียดเฉพาะด้าน โดยเครื่องพิมพ์ความร้อนจะต้องใช้กับกระดาษความร้อนเท่านั้น มักใช้พิมพ์สลิป ใบเสร็จ ตั๋ว หรือบัตรคิว ส่วนเครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์เหมาะสำหรับพิมพ์งานขนาดใหญ่ที่ต้องการความละเอียดสูง
ถึงอย่างไรก็ตาม หากกำลังมองหาเครื่องพิมพ์ที่ตอบโจทย์ สามารถเลือกชมสินค้าเพิ่มเติมได้ภายในเว็บไซต์ uniquebig เพราะมีเครื่องพิมพ์หรือเครื่องปริ้นเตอร์ หมึกพิมพ์หรือหมึกปริ้นเตอร์ และเครื่องถ่ายเอกสารหลากหลายแบรนด์ หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Brother, Canon, Epson, Fujifilm, HP, Ricoh หรือ Samsung เป็นต้น พร้อมรับประกันสินค้าของแท้มีคุณภาพดีจากแบรนด์ดังระดับโลก และมีบริการหลังการขายจากทางบริษัทโดยตรง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร : 02-922-0291
E-mail : support@uniquebig.com
line : @ubcbiz